สมเด็จพระพันปีหลวง พระปรีชาญาณอนุรักษ์ผ้าไทย พัสตราภรณ์งดงาม คงอยู่คู่แผ่นดิน

นับเป็นเวลา 7 ทศวรรษที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงให้ความสำคัญและทุ่มเทพระวรกายในการอนุรักษ์และฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมของชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผ้าไทยที่ทรงอนุรักษ์ฟื้นฟูและเป็นแบบอย่างในการใช้ผ้าไทยด้วยพระองค์เอง ทรงฉลองพระองค์ชุดผ้าไทยไปทุกหนทุกแห่ง รวมถึงการเสด็จฯไปเยือนต่างประเทศ เพื่อเผยแพร่ความงดงามของผ้าไทยสู่สายตาชาวโลก

 

พระองค์ทรงพลิกฟื้นผ้าไทย จากสิ่งทอของชาวบ้านที่เกือบสูญหายให้กลับมาเป็นอาภรณ์ที่คนทั่วโลกให้การยอมรับถึงคุณค่าและความงดงามอันประเมินค่ามิได้

 

ต่อมาในปี 2519 สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้งมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ขึ้นเพื่อช่วยเหลือชาวไร่ชาวนาในถิ่นทุรกันดารจากทุกภูมิภาคของไทยให้มีรายได้เสริมจากงานหัตถกรรมทอผ้า รวมทั้งหัตถกรรมประเภทอื่นๆ ด้วยทรงทราบว่าคนไทยในแต่ละท้องถิ่นมีความสามารถในการสร้างสรรค์งานฝีมือ หากได้รับการส่งเสริมอย่างถูกต้อง ความสามารถพิเศษเช่นนั้นจะช่วยสร้างรายได้พิเศษแก่ตนเอง รวมทั้งชุมชนได้เป็นอย่างดี

 

 

เสน่ห์ผ้าไทย 4 ภูมิภาค 
                  ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) ได้เล็งเห็นความสำคัญของผ้าไทย ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่สืบ ทอดต่อเนื่องกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน ที่มีความหลากหลายทั้ง รูปแบบ ลวดลาย และสีสัน ซึ่งมีเสน่ห์และความงดงาม แตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น ตามความเชื่อ และประเพณีวัฒนธรรมในพื้นถิ่น โดยกรรมวิธีทำให้เกิดลวดลายในผ้าไทย แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ลวดลายจากกรรมวิธีการทอ เช่น จก ยก ขิด ขัด ลวดลายจากกรรมวิธีการเตรียมลวดลายเส้นด้าย ก่อนทอ เช่น การมัดหมี่ และลวดลายจากกรรมวิธีการทำลวดลายหลังจากเป็นผืนผ้า เช่น การย้อม การมัดย้อม อย่างไรก็ตาม หากจำแนกผ้าไทยตามกรรมวิธีเทคนิคการทอสามารถจำแนกได้โดยสังเขป ดังนี้1) การทอขัด 2) มัดหมี่ 3) จก 4) ขิด 5) ยก และ 6) การควบเส้น ผ้าไทยมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า

 

"ชุดประจำชาติ Miss Universe 2016" ครั้งที่ 65 สวยเลอค่าประทับใจชาวไทย "น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์" ไม่เคยทำให้ผิดหวังกับทุกท่วงท่าในการพรีเซนต์ความงดงามใน "ชุดประจำชาติไทย" Jewel of Thailand สวยงามประดั่งนางในวรรณคดี 

สำหรับชุดประจำชาติ จีเวล ออฟ ไทยแลนด์ ออกแบบโดย นายหิรัญกฤษฏิ์ ภัทรบริบูรณ์กุล ตัดเย็บโดยช่างศิลป์ไทยทุกแขนงร่วมมือกัน เป็นการปักแบบเสื้อผ้าชั้นสูง โอต์กูตูร์ สร้างสรรค์ลายปักขึ้นใหม่แบบ อาร์ต เดโค่ และประยุกต์จากงานออกแบบตกแต่งอย่างไทยในพระบรมมหาราชวังและงานปักของเลอซาจ คือการปักด้วยดิ้นทองผสมกับเพชรของสวารอฟสกี้ นับสามแสนเม็ดบนชุดสีทอง เพื่อให้เกิดประกายแวววาวเมื่อกระทบแสงไฟ ได้รับแรงบันดาลใจจากฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ต้องใช้ฝีมือการปักอันประณีตและการอดทนมุ่งมั่น น้ำหนักรวมกว่า 14-15 กิโลกรัม

นอกจากตัวชุดแล้ว ยังมีเครื่องประดับจำนวน 6 ชิ้น ประกอบด้วย รัดเกล้ายอด (เครื่องประดับศีรษะ) ต่างหู สร้อยคอ พาหุรัด (ประดับต้นแขน) ปั้นเหน่ง (หัวเข็มขัด) และสายเข็มขัด ทั้งหมดผลิตด้วยวัสดุเงินแท้ ชุบทองประดับเพชรคิวบิคเซอร์โคเนีย จากสวารอฟสกี้ทุกชิ้น รวมมูลค่าหลายล้านบาท

 

โครงการไทยช่วยไทย

เป็นโครงการที่จัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการหรือร้านค้าที่มีสินค้าในการจำหน่าย โดยไม่มีการปิดกั้นการขาย ผู้ประกอบการสามารถลงขายสินค้าได้ทุกประเภททุกหมวดหมู่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Lucky Shop เพื่อเกิดการซื้อขายและเกิดรายได้ต่อผู้ประกอบการหรือร้านค้า ภายใต้ชื่อโครงการ “ไทยช่วยไทย

 

ผู้ก่อตั้งโครงการ “ไทยช่วยไทย” คือ อาจารย์พิศิฎฐ์พศ ภูวฉัตร์นิธิกุล ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมนานาชาติ  โดยท่านได้คำนึงถึงรายได้ของผู้ประกอบในประเทศไทยที่มีผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตเองหรือสร้างขึ้นในประเทศไทย และมีแนวคิดในการส่งเสริมอาชีพและรายได้แก่คนไทยที่ขาดโอกาสขายสินค้าในออนไลน์ โดยได้รับการสนับสนุนจาก Lucky Shop ในการให้ผู้ประกอบการและลูกค้าสามารถซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มของ Lucky Shop

 

ผู้ประกอบการที่สนใจขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม Lucky Shop สามารถดูรายละเอียดหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ภูษาสยาม  PHUSASIAM

 

มีการสนับสนุนในการโฆษณาสินค้า ฟรี! ผ่านทางตลาดนัดออนไลน์ที่มีการจัดตั้งขึ้นผ่านเพจ Facebook : ไทยช่วยไทย ทุกวันจันทร์ , พุธ เวลา 14:00 น. - 15:30 น. และวันศุกร์ เวลา 20:00 น. – 21:00 น.

 

โอกาสทางการค้าออนไลน์

ในสถาการณ์ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ เกิดปัญหาการซื้อขายสินค้าทางออนไลน์ มีการปิดกั้นการขายสินค้าบางหมวดหมู่ อาทิ สัตว์เลี้ยง สัตว์สวยงาม ทำให้ผู้ประกอบการมียอดขายที่ลดลง และมีผลกระทบอย่างอื่นตามมา

 

ทางโครงการ “ไทยช่วยไทย” มีการเล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในจุดนี้ จึงมีการช่วยเหลือ สนับสนุนในการซื้อขายสินค้าทางออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์ม Lucky Shop โดยการขายสินค้าผ่านทาง Lucky Shop ผู้ประกอบการสามารถขายสินค้าได้โดยถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ถูกการปิดกั้นการขาย เพื่อให้ผู้ประกอบการมีทางออกในการซื้อขายสินค้าทางออนไลน์ได้อย่างไม่กังวลใจ และเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ และยังคงสะดวกสบายในการสั่งซื้อสินค้าอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมายผ่านทาง Lucky Shop อีกด้วย