บอกลา...ออฟฟิศซินโดรม


 

โรคออฟฟิศซินโดรม คืออะไร

ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) จัดอยู่ในกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด ซึ่งมักเกิดจากการที่ต้องใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำไปมา เป็นระยะเวลานานและต่อเนื่อง โดยผลของมันจะทำให้กล้ามเนื้อเกิดการอักเสบ ตลอดจนปวดเมื่อยตามอวัยวะส่วนอื่น ๆ ไล่ลงมาตั้งแต่คอ หลัง บ่า ไหล่ แขน หรือแม้กระทั่งบริเวณข้อมือก็ไม่เว้น ซึ่งหากผู้ที่พบว่ามีอาการของโรคออฟฟิศซินโดรม แต่ไม่ทำการรักษาตัวในทันทีที่พบ อาการอาจทรุดหนักลงและลุกลามจนผู้ป่วยมีอาการปวดชนิดเรื้อรังได้

 

อาการแบบไหน เสี่ยง! "ออฟฟิศซินโดรม"

 

นอนไม่หลับ
การมีพฤติกรรมที่ไม่ส่งเสริมการนอนเช่น การทำงาน หรือใช้อุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ ช่วงเวลาที่ควรนอน ความวิตกกังวล
ทำให้เกิดความผิดปกติในการนอน ทำให้นอนยาก ไม่ง่วงเมื่อถึงเวลานอน นอนหลับไม่สนิท นอนแล้วตื่นกลางดึก ตื่นแล้วกลับไปนอนไม่ได้อีก หรือแม้จะรู้สึก อ่อนเพลียเพียงใดก็ไม่สามารถนอนหลับได้


 

ปวดหลัง 

ที่เกิดจากการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวันเป็นจุดเริ่มต้นของโรคนี้ แต่ถึงจะรู้สาเหตุหลายคนก็ยังเลือกที่จะปล่อยไว้ คิดว่ากินยาเดี๋ยวก็ดีขึ้น ไปนวดเดี๋ยวก็หาย  แต่จริงๆ แล้วการปวดเรื้อรังอาจนำไปสู่โรคที่ร้ายแรง เช่น โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แพทย์จึงอยากให้สังเกตอาการอื่น ๆ ด้วย ดังนี้

  • มีอาการปวดหลังเรื้อรังนานกว่า 2-4 สัปดาห์
  • หากมีการกดทับเส้นประสาทบริเวณเอว จะมีอาการปวดหลังร้าวลงขา อาจเป็นข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง หากปล่อยทิ้งไว้จนเป็นหนักขึ้นกล้ามเนื้อขาจะอ่อนแรง ควบคุมการเดินไม่ได้
  • หากมีการกดทับเส้นประสาทบริเวณต้นคอ คนไข้จะมีอาการปวดคอร้าวลงแขน แขนอ่อนแรงหรือชา ไปจนถึงไม่สามารถควบคุมการใช้มือได้
  • เวลาไอ จาม หรือเบ่งจะรู้สึกปวดลึกๆ หรือมีอาการปวดร้าวไปแขนหรือขาได้ เนื่องจากเกิดแรงดันในไขสันหลัง

 

ปวดคอ 

การนั่งอยู่ในท่าเดิมนานๆ เป็นสาเหตุของอาการปวดคอที่ อาจปวดแบบเป็นๆ หายๆ หรือปวดเรื้อรัง ถ้าอาการปวดมาจากกล้ามเนื้อจะไม่ค่อยก่อปัญหาอะไรมาก แต่ถ้าปวดรุนแรงมากเพราะหมอนรองกระดูกสันหลังบริเวณกระดูกต้นคอเสื่อม แล้วเคลื่อนไปทับเส้นประสาท หรือไขสันหลัง 

โดยสามารถแบ่งได้ 3 กลุ่มดังนี้

กลุ่มที่มีอาการปวดคออย่างเดียว

ปวดมาถึงบ่าและสะบัก กลุ่มนี้ถึงแม้จะรักษาค่อนข้างง่าย แต่ก็เป็นอันตรายหรือภัยเงียบด้วยเช่นกัน

กลุ่มที่ปวดเพราะมีการกดทับเส้นประสาท

ปวดร้าวลงแขนไปจนถึงมือร่วมกับอาการชา รายที่เป็นมากๆ อาจมีอาการอ่อนแรงร่วมด้วย เช่น ยกไหลไม่ขึ้น ขยับนิ้ว หรือกระดกข้อมือไม่ขึ้น นอกจากนี้ หากมีการกดทับเส้นประสาทที่ทำงานเกี่ยวข้องกับส่วนใด จะส่งผลให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นลีบลงด้วย บางครั้งอาจลีบถาวร 

กลุ่มที่ปวดเพราะมีการกดทับไขสันหลัง

กลุ่มนี้จะมีอาการแสดงที่ไม่ชัดเจน ทำให้กว่าผู้ป่วยจะรู้ตัวก็มักจะเป็นมากแล้ว ผู้ป่วยอาจมีประวัติปวดคอเรื้อรัง ร่วมกับปวดลงแขนหรือลงขา หรือมีอาการชาร่วมด้วย ไปจนถึงมีอาการอ่อนแรง หรือกล้ามเนื้อบางส่วนเจ็บ กล้ามเนื้อมือลีบ หยิบจับของเล็กๆ ลำบาก

 

ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง

คนที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อแบบเรื้อรัง ก็จะสามารถสังเกตอาการตัวเองได้ว่า ถ้ามีอาการปวดที่บริเวณกล้ามเนื้อ, ปวดร้าวลึก ๆ ที่บริเวณกล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย, อาจจะปวดอยู่ตลอดเวลา หรือว่าปวดเฉพาะเวลาที่เอามือกดแล้วรู้สึกเจ็บ ความรุนแรงของอาการปวด 

 

นิ้วล็อค 
เป็นความผิดปกติของมือที่ไม่สามารถงอหรือเหยียดได้อย่างปกติ  อาจเป็นนิ้วเดียวหรือหลายนิ้วภาวะนี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่ปลอกเอ็นบริเวณข้อโคนนิ้วหนาตัวขึ้น เอ็นบวม  ทำให้ปลอกรัดเอ็นมากขึ้น 
สาเหตุ เกิดจาการใช้แรงงอนิ้วมากๆ  หรือกำนิ้วแน่นมากๆ ทำให้เกิดการเสียดสีบริเวณปลอกหุ้มเอ็นมาก  ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลง  หรือการเสื่อมของเซลล์ร่วมด้วย พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และพบได้บ่อยร่วมกับโรคเบาหวาน รูมาตอยด์

 

ส่วนประกอบที่สำคัญ

Marigold extract 

สารสกัดจากดอกดาวเรือง 100
Blueberry extract 

สารสกัดจากบลูเบอร์รี่ 30
Green tea extract 

สารสกัดจากชาเขียว 30
Ginger extract 

สารสกัดจากขิง 30
L-Glutamine (100%) 

แอล-กลูตามีน (100%) 30
Bacopa extract 

สารสกัดพรมมิ 30
L-Lysine monohydrochloride 

แอล-ไลซีน โมโนไฮโดรคลอไรด์ 30
L-Carnitine L-Tartrate (100%) 

แอล-คาร์นิทีน แอล-ทาเทรท (100%) 30
Reishi extract 

สารสกัดจากเห็ดหลินจือ 20
Astragalus extract 

สารสกัดจากปักคี้ 20
Mangosteen extract 

สารสกัดจากมังคุด 20
Yamabushitake powder 

ผงยามาบูชิตาเกะ 20
Coenzyme Q10 10% 

โคเอ็นไซม์ คิวเท็น 10% 15
Taurine ทอรีน 15
Oat beta-glucan 22%

เบต้ากลูแคนจากโอ๊ต 22% 15
Ginseng extract 

สารสกัดจากโสม 15
Bilberry extract 

สารสกัดจากบิลเบอร์รี่ 10
Capsicum extract 

สารสกัดจากพริก 10
Turmeric extract 

สารสกัดจากขมิ้นชัน 10

 

ขนาดบรรจุ : 30 เม็ด

เลขสารบบ อย. : 10-1-15456-5-0047

วิธีรับประทาน : รับประทานก่อนอาหาร 1 เม็ด/วัน